วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

การขอ วีซ่า Non-O ให้สามีต่างชาติ



สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆที่มีแฟน มีสามีชาวต่างชาติ เรื่องการทำวีซ่าแต่งงาน Non-O หรือที่เรียกว่า วีซ่าอุปการะภรรยาไทย & อุประการะบุตรสัญชาติไทย
เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับสาวๆไทยหลายๆคน ที่อยากให้แฟนมาอยู่ด้วยกันยาวๆ ที่บ้านเราแบบถูกต้องตามกฏหมายตรวจคนเข้าเมืองไทย โดยที่ไม่ต้องเข้าๆออกๆไป ต่อวีซ่าแบบท่องเที่ยว


จริงๆการทำ Non-O ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เตรียมเอกสารครบตามระเบียบกองตรวจคนเข้าเมืองเท่านั้นเองค่ะ (ข้อนี้แหละที่ยาก 555+++)
สาวๆหลายๆคนอาจจะหาข้อมูลใน Internet บ้าง เวป ตม ก็ไม่ชัดเจน เรื่องเอกสาร หรือโทรไปสอบถามตม. (ติดยาก) จนท ก็อธิบายไม่ชัดเจน เลยทำให้ท้อแท้ และคิดว่ายุ่งยากมากเลยการมีสามีต่างชาติ แล้วอยากมาอยู่ประเทศไทยเนี่ย

วันนี้จะอธิบายให้แต่ละขั้นตอนเลยนะคะ

เริ่มเข้าเรื่องกันเลยค่ะ

*** ต้องบอกก่อนนะคะ ว่าสามีเรา เป็น โอป้าเกาหลีค่ะ แต่หลักๆแล้วการขอวีซ่า Non-O ที่ไทยก็จะใช้เอกสารเหมือนกันทุกประเทศ

ขั้นตอนแรกเลยสาวๆที่แต่งงานกับชาวต่างชาติแล้วต้องจดทะเบียนสมรส ก่อนนะคะ ได้ทั้งตามกฏหมายไทย (จดที่ไทย) หรือตามกฏหมายต่างชาติ

เราจดทะเบียนสมรสที่ไทย สามารถจดได้ที่สำนักงานเขต หรืออำเภอได้ทุกที่ การเตรียมเอกสารต้องโทรไปสอบถามเขตหรืออำเภอ ที่ตนเองจะจดอีกครั้งนะคะ

เราสองคนจดทะเบียนสมรส กันที่เขตบางรัก ค่ะ

- ไปที่สถานทูตเพื่อขอแบบฟอร์มรับรอบสถานภาพ (ใบรับรองโสด) ของแฟนคุณว่า โสด หรือ หย่าแล้ว

- รับใบรับรองโสดจากสถานทูตแล้ว ก็นำใบรับรองโสดและหน้าพาสปอร์ตของสามี ไปแปลเป็นภาษาไทย แปลเสร็จก็เอาไปยื่นรับรองการแปลเอกสารที่ ตม แจ้งวัฒนะ

- จากนั้นนำต้นฉบับพาสปอร์ตของแฟนตัวจริงและใบรับรองโสดทั้งตัวจริงและที่แปลรับรองแล้ว พร้อมสำเนาเอกสารทุกอย่างไปยื่นจดทะเบียนสมรส ที่สำนักงานเขต หรือ อำเภอ แนะนำก่อนไปให้โทรสอบถามก่อนเพราะแต่ละเขตอาจจะไม่เหมือนกัน บางที่ต้องใช้ล่าม และพยาน ด้วย


- คู่เราไม่ต้องใช้ล่ามค่ะ แต่แจ้งที่เขตว่าเราใช้ภาษาอะไรในการสื่อสารกัน เรากับสามีสื่อสารกันเป็นภาษาไทยค่ะ









มาถึงขั้นตอนการขอ Non-O กันค่ะ (ขออธิบายตามประสบการณ์ของสามีนะคะ)

Non-O คือ Non-Immigrant Visa ซึ่งตอนแรกเลยจะได้ 90 วัน นะคะ แล้วถึงจะมาเปลี่ยนเป็นแบบขออยู่ต่อเป็นการชั่วคราว 1 ปี

- หากสามีอยู่ต่างประเทศ ก่อนเข้ามาไทยให้นำ Passport ไปทำเรื่องขอ Non-O ที่สถานฑูตไทยในประเทศที่สามีพำนักอยู่ (เกาหลีไม่มีค่าใช้จ่าย)

- หากสามีอยู่ไทยด้วยวีซ่าท่องเที่ยวหรืออื่นๆ อยากเปลี่ยนให้ไปทำเรื่องขอเปลี่ยนลงตราวีซ่าเป็น Non-O จากประเทศใกล้ๆที่มีสถานฑูตไทย (ใกล้และง่ายสุดก็ลาว มีค่าธรรมเนียม)

- จากนั้นเมื่อได้รับ Non-O 90 วันแล้วให้ใช้วีซ่าเดินทางเข้าประเทศไทย (ตม จะทราบขั้นตอนและประทับตราให้)




หน้าตาของ Non-O 90 วันเป็นแบบนี้ ตม จะประทับตรา USED ให้ว่าใช้วีซ่านี้แล้ว

*** Non-O 90 วันมีอายุ 1 ปี นับจาวันที่ได้รับ แต่จะเริ่มนับวันจากที่ใช้เข้าไทยวันแรก

- ต่อมาเมื่อใช้ Non-O เข้าไทยแล้วต้องไปเปิดบัญชี ธนาคาร (ธนาคารอะไรก็ได้ในไทย) ที่เป็นชื่อสามี ต้องฝากเงินไม่ต่ำกว่า 400,000 บาท ห้ามถอนเด็ดขาดเป็นเวลา 2 เดือนเต็ม (ห้ามขาดแม้แต่สตางค์เดียว 555+++)

- หรือสามารถแสดงรายได้ เดือนละไม่น้อยกว่า 40,000 บาท โดยให้สถานฑูตออกหนังสือรับรองที่มาของรายได้

- ระหว่างที่ใช้ Non-O พำนักอยู่ที่ไทย หากมีเหตุจำเป็นต้องไปต่างประเทศ อย่าลืมทำ Re-Entry Visa เพื่อรักษาสถานะและวันในวีซ่าเอาไว้ (ไม่งั้นวีซ่าขาดจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง)

- การยื่นขอขออยู่ต่อชั่วคราว 1 ปี สามารถเตรียมเอกสารเพื่อยื่นคำขอได้ 30 วันก่อนวีซ่า Non-O ที่ถืออยู่จนถึงวันสุดท้าย *** ดอกจันรัวๆ แนะนำควรยื่นก่อนที่วีซ่าจะหมดนะจ๊ะ อย่ายื่นวันสุดท้ายเผื่อเอกสารไม่ครบ กลับไปเตรียมมาไม่ทัน ตม ไม่ประทับตราอยู่ต่อให้ วีซ่าขาด ต้องเริ่มนับ 1 ใหม่อีกนะจ๊ะ

ปกติเราจะยื่นขอประมาณ 15 วันก่อนวีซ่าสามีหมด

มาถึงเอกสารที่ต้องเตรียมยื่นขออยู่ต่อ 1 ปี ค่ะ จขก ขอ List มาจาก ตม แจ้งวัฒนะ เพื่อความชัดเจนว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างให้ครบจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาที่ ตม (จะบอกว่าคนเยอะมากล้านแปด และรอคิวนาน)









- เมื่อเงินในบัญชีฝาก 4 แสนบาทขึ้นไป ครบ 2 เดือนเต็มแล้วให้ไปขอหนังสือรับรองเงินฝากจากธนาคารที่เปิดบัญชี สาขาไหนก็ได้ (หรือจะไปขอที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะก็ได้ มีทุกธนาคาร ใช้เวลาไม่นาน) หน้าตาจะเป็นแบบนี้ อ้อ อย่าลืมอัพเดท Book Bank ล่าสุด ณ วันที่ยื่นด้วยนะคะ จนท จะขอดูยอดเงินใน Book Bank จริงด้วย





- เสร็จแล้ว ตรวจสอบเอกสารตาม List ด้านบน แล้วไปรับคิวที่ ตม (จขก กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เพราะพักอาศัยในเขต กทม)


*** รับบัตรคิวได้ตั้งแต่ 8.30 - 16.00 (มีพักเที่ยงนะคะ) แนะนำถ้าไม่อยากเสียเวลาไปรอรับบัตรคิวนานๆให้ไปช่วงบ่าย 13.30-14.00 คนไม่ค่อยเยอะ และไม่ควรไปวันจันทร์หรือก่อนวันหยุดยาว






เราพุธไปถึงช่วงพักเที่ยงพอดี คนรอคิวล้านแปด (ชาวต่างชาติอยู่ประเทศไทยเยอะกันจริงๆ)



- นำเอกสารที่เตรียมไว้ไปให้ จนท ด้านในกดบัตรคิวให้ค่ะ

- ระหว่างรอคิวให้ไปขอแบบคำขอ ตม 7 ที่ Information ด้านนอก แล้วกรอกรายละเอียด ก็จะมีตัวอย่างให้ดูที่โต๊ะค่ะ







แบบ ตม 7 หน้าตาเป็นแบบนี้ (ดาวน์โหลดจากลิงค์นี้ได้เลย http://bangkok.immigration.go.th/download/form_tm7.pdf

- กรอกรายละเอียดเสร็จแล้วก็นำเอกสารไปนั่งรอเรียกคิว ที่โซน L (Visa Extension ) ได้เลย




- จนท จะเรียกคิว 2 ครั้ง ครั้งแรกเรียกไปตรวจเอกสารเบื้องต้นก่อน แล้วจะให้แบบฟอร์มมา 2 ฉบับ (ไม่ได้ถ่ายรูปมา) ให้สามีกรอกเป็นภาษาอังกฤษ นะคะ

- จากนั้นก็นั่งรอเรียกคิวเข้าไปให้การบันทึกปากคำกับ จนท หรือสัมภาษณ์นั่นเอง สามีภรรยาต้องเข้าไปด้วยกันนะคะ

*** คำถามที่เจอก็จะประมาณว่า รู้จักกันยังไง อยู่กันมากี่ปีแล้ว แต่งงานกันเมื่อไหร่ เราทำงานหรือเปล่า รายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ สามีอายุเท่าไหร่ มีพี่น้องกี่คน พักอยู่ที่ไหนนะ บลาๆๆๆๆ (แล้วแต่ จนท อยากรู้มากอยากรู้น้อยแค่ไหน อิอิ)

- ถ้าเอกสารครบแล้วไม่มีปัญหา ก็เตรียมเงินค่าธรรมเนียม 1,900 บาท จ่ายค่าธรรมเนียมขออยู่ต่อเลยจ้า




เย้!!!! นั่งรอเรียกคิวประมาณ 3 ชม พอ จนท บอกว่าเอกสารเราครบแล้วนี่แบบคิดในใจสบายใจ เอกสารครบจบไม่ต้องมาหลายครั้ง ต้องรอคิวใหม่อีกนะจ๊ะ

- จากนั้นก็นั่งรอ Passport สามีเพื่อให้สารวัตร ตรวจสอบเอกสารและประทับตราให้อยู่ต่ออีก 30 วันระหว่างรอฟังผล

หากไม่มีปัญหาอะไร ก็ให้เข้ามาฟังผลด้วยตนเองตามวันนัดที่สแตมป์ใน Passport ได้เลยค่ะ หากมีปัญหาหรือขอเอกสารเพิ่มเติม จนท จะโทรมาแจ้งค่ะ ถ้าเงียบๆไม่มีอะไรก็เข้าไปรับวีซ่าตามวันนัดแปลว่าผ่านเรียบร้อย

ใครรับวีซ่าพอมีเวลาเหลือก็ไปขอแบบฟอร์ม ตม.8 Re-Entry Visa (TM 8.) ที่ Information หรือจะดาวน์โหลดที่นี่ http://bangkok.immigration.go.th/download/form_tm8.pdf

***การทำ Re-Entry Visa ก็เพื่อรักษาสถานะวีซ่าที่ถืออยู่ ถ้าไม่ทำแล้วออกไปต่างประเทศวีซ่าก็จะยกเลิกทันที***

ตรงนี้ใช้เวลาไม่นานประมาณ 10 นาทีก็เสร็จ หรือใครจะทำที่ ตม. ในสนามบินตอนออกไปต่างประเทศก็ได้

ค่าธรรมเนียมมี 2 แบบ

- Single Entry 1,000 บาท/ครั้ง เข้าออกได้ 1 ครั้ง

- Multiple Entry 3,800 ต่อปี เข้าออกกี่ครั้งก็ได้ (สามี จขก ทำแบบนี้คุ้มกว่าเพราะไป ตปท บ่อย)

ขั้นตอนการขอวีซ่า Non-O สำหรับสาวๆที่มีสามีชาวต่างชาติอยากมาอยู่เมืองไทยยาวๆก็ประมาณนี้นะคะ

ขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วตราว ต้องต่อปีต่อปีนะคะ ส่วนขั้นตอนก็ทำเหมือนเดิมทุกอย่าง

*** การยื่นคำขอนั้นต้องยื่นที่ ตม. ในเขตพื้นที่ ที่พักอาศัยอยู่ในปัจจุบันนะคะ ใครพัก กทม ก็ยื่นแจ้งวัฒนะ ใครพักพัทยา ก็ยื่นพัทยา ฯลฯ

- เพิ่มเติม ใครที่พักอาศัยเป็นบ้านเช่า คอนโด ที่ไม่ตรงกับทะเบียนบ้านภรรยา ให้ใช้สำเนาสัญญาเช่า หรือหนังสือรับรองการเช่า หรือคำยินยอมจากเจ้าบ้าน/เจ้าของบ้าน พร้อมทั้ง สำเนาบัตรประชาชนทะเบียนบ้านของเจ้าของ/เจ้าบ้าน หากไม่มีเจ้าบ้านต้องใช้สำเนาโฉนดบ้านแนบด้วย




ใครอยู่บ้านพ่อบ้านแม่หรือภรรยาไม่ใช่เจ้าบ้านก็ทำแบบนี้ก็ได้ค่ะ (ขออนุญาตนำรูปตัวอย่างจากอินเตอร์เน็ตนะคะ)

ปล. ตม.บางที่ อาจจะขอใบรับแจ้งที่พักคนต่างด้าว ถ้าไม่มีแล้วไปยื่นแจ้งหลังจาก 24 ชม ที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทยก็จะมีค่าปรับนะจ๊ะ โทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท

การแจ้งก็เข้าไปดูรายละเอียดตามนี้เลย

https://www.immigration.go.th/content/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7

ต่อไปสาวๆที่มีแฟนต่างชาติอยากให้แฟนมาใช้ชีวิตอยู่ที่ไทยด้วยกันแบบถูกต้องตามกฏของกองตรวจคนเข้าเมืองประเทศไทย ก็ไม่ต้องกังกลอีกต่อไป ไม่ต้องเปลืองเงินเข้าๆออกทุกๆ 3 เดือน (สำหรับบางประเทศ) แถมเสี่ยงกับการติด ตม หรือต้องโชว์ตั๋วไป-กลับ ทุกครั้ง แต่ถ้าหากคนที่ยังไม่พร้อมเรื่องรายได้หรือเงินฝากจริงๆ แต่อยากอยู่ด้วยกัน ก็ต้องเข้าๆออกๆไปก่อน หากติด ตม. หรือมีคำถามก็ต้องให้เหตุผล แล้วแต่ จนท จะพิจารณา....

ขอให้สาวๆโชคดีนะคะ หากใครมีประสบการณ์ก็คอมเม้นต์เพิ่มเติมกันได้เลยนะคะ

ใครอยากสอบถามรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติมก็หลังไมค์มาได้ค่ะ จขก ก็จะตอบให้ตามประสบการณ์ของตัวเองนะคะ


ข้อมูลขาดตกบกพร่องประการใด ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ





1 ความคิดเห็น:

  1. ยืนNON O ต้องใช้เอกสารอะไรบ้างค่ะ ของทั้ง ผช และ ผญไทยส่วน เอกสารที่ต้องพาผช ไปขอที่สถานทูตเกา มีแค่ใบรับรองโสดอย่างเดียวใช่ไหมคะ แล้วจำเป็นต้องออก ไปต่างประเทศไหมคคะ ช่วงนี้

    ตอบลบ

เที่ยว ระนอง ทะเล พม่า

สวัสดีค่ะ นี่เป็นรีวิวแรกในรอบปีของพวกเรา จริงๆพวกเราเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวมากๆ โดยเฉพาะทะเล ดำน้ำ แต่ไม่มีเวลาทำ Blog อย่างจริงจังเนื่องจาก...